นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล บริษัท เฮเฟเล่ (ประเทศไทย) จำกัด

ปรับปรุงล่าสุด เดือนพฤษภาคม 2565

  1. บทนำ

                1.1 เมื่อสหภาพยุโรปได้ออกกฎหมายฉบับใหม่เกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือที่เรียกกันว่า “GDPR” (EU General Data Protection Regulation) ซึ่งเป็นการปรับปรุงกฎหมายเดิม (EU Data Protection Directive 95/46/EC) ซึ่งใช้บังคับมานานมากว่า 20 ปี ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงหลักการที่สำคัญเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

                1.2 GDPR มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2561 ที่ผ่านมา ซึ่งนอกจากจะมีผลบังคับใช้แก่การส่งข้อมูลภายในประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปแล้ว สำหรับผู้ประกอบการไทยหากจะทำการติดต่อรับ-ส่งข้อมูลกับบุคคลของประเทศสมาชิก ก็ต้องมีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสมเพียงพอเช่นเดียวกัน เป็นเหตุให้ผู้ประกอบการไทยต้องปรับตัวเพื่อรองรับมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว

                1.3 ในส่วนของประเทศไทย เป็นเวลากว่า 20 ปีที่รัฐบาลได้พยายามผลักดันกฎหมายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลจนประสบความสำเร็จและประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อ 28 พฤษภาคม 2562 และจะมีผลบังคับใช้ตามกฎหมายในวันที่ 1 มิถุนายน 2565 โดยได้รับอิทธิพลสำคัญจาก GDPR

                1.4 บริษัท เฮเฟเล่ (ประเทศไทย) จำกัด (ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกว่า “เฮเฟเล่”) ได้ตระหนักถึงการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลในความครอบครองของเฮฟเล่อย่างมีประสิทธิภาพ จึงได้จัดทำนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ขึ้นเพื่อให้มีความสอดคล้องกับ GDPR และพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (“PDPA”)

                1.5 นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ อธิบายวิธีการที่เฮเฟเล่เก็บรวบรวม ใช้ เก็บรักษา เปิดเผย และ/หรือ โอนไปยังต่างประเทศ ซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานหรือลูกจ้างของเฮเฟเล่ และลูกค้าในปัจจุบันและอนาคต โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อคุ้มครองความเป็นส่วนตัวของข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลเหล่านี้

                1.6 เฮเฟเล่มีความมุ่งมั่นในการดำเนินการเพื่อให้มั่นใจว่าความเป็นส่วนตัวของท่านจะได้รับความคุ้มครอง และการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะเป็นไปตามกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง (ซึ่งอาจมีการแก้ไขเพิ่มเติมและมีการออกกฎหมายใหม่ใช้บังคับแทนเป็นครั้งคราว) เฮเฟเล่จะเก็บรวบรวม ใช้ เก็บรักษา เปิดเผย และโอนไปยังต่างประเทศซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้เท่านั้น

                1.7 นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ใช้กับช่องทางการสื่อสารทั้งออนไลน์หรือออฟไลน์ที่เฮเฟเล่เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ไม่ว่าจะได้รับมาจากท่านโดยตรง ผ่านสถานที่แสดงสินค้า สถานประกอบการ หรือโชว์รูมของเฮเฟเล่ งานกิจกรรม หรือทางโทรศัพท์ผ่านศูนย์บริการข้อมูลลูกค้า (call centre) หรือทางออนไลน์ ผ่านทางอีเมล หรือแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย (เช่น เว็บเพจ Facebook หรือ Line) และช่องทางอื่นๆ ที่เกี่ยวกับการจัดหาผลิตภัณฑ์และบริการให้แก่ท่าน เว็บไซต์ของเฮเฟเล่ https://www.hafelethailand.com/ และ https://www.hafelehome.co.th/และ/หรือเว็บไซต์อื่นๆ (“เว็บไซต์”) ซึ่งต่อไปนี้จะรวมเรียกกันว่า “ช่องทางการสื่อสาร”)

                1.8 นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ได้รับการปรับปรุงครั้งล่าสุดเมื่อ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2565 เฮเฟเล่สงวนสิทธิ์ โดยมีดุลยพินิจแต่เพียงผู้เดียว ในการปรับเปลี่ยน แก้ไข ลบ และปรับปรุงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้เป็นครั้งคราว เฮเฟเล่จะใช้ความพยายามตามสมควรเพื่อแจ้งให้ท่านทราบถึงการปรับเปลี่ยนข้อกำหนดใดของนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ หากการเปลี่ยนแปลงใดๆ ของนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ต้องได้รับความยินยอมจากท่านตามกฎหมายที่ใช้บังคับ เฮเฟเล่จะขอความยินยอมจากท่านเพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว

                1.9 โปรดอ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้อย่างละเอียดและนำไปปฏิบัติอย่างเคร่งครัด สำหรับพนักงานของเฮเฟเล่ การปฏิบัติตามนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ของท่านมีความสำคัญและหากฝ่าฝืนอาจส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อเฮเฟเล่ในการปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับด้านการคุ้มครองข้อมูล หากท่านมีข้อสงสัยหรือคำขอใดๆ โปรดติดต่อแผนกกฎหมายของเฮเฟเล่ ตัวแทนแผนก หรือเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเฮเฟเล่

  1. คำนิยาม

                ข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Data) หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ

                ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล (Data Controller) หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (Data Processor) หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล

คณะกรรมการ (Committee) หมายถึง คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

ข้อมูลชีวภาพ (Biometric Data) หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่เกิดจากการใช้เทคนิคหรือเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการนำลักษณะเด่นทางกายภาพหรือทางพฤติกรรมของบุคคลมาใช้ทำให้สามารถยืนยันตัวตนของบุคคลนั้นที่ไม่เหมือนกับบุคคลอื่นได้ เช่น ข้อมูลภาพจำลองใบหน้า ข้อมูลจำลองม่านตา หรือ ข้อมูลจำลองลายนิ้วมือ

ข้อมูลอ่อนไหว (Sensitive Personal Data) เป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นเรื่องส่วนตัวโดยแท้ของบุคคลแต่มีความละเอียดอ่อนและสุ่มเสี่ยงต่อการถูกใช้ในการเลือกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม จึงจำเป็นต้องดำเนินการด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ

เจ้าของข้อมูล (Data Subject) มีความหมายในลักษณะเป็นบุคคลที่ข้อมูลนั้นบ่งชี้ไปถึง ไม่ใช่เป็นเจ้าของในลักษณะทรัพยสิทธิ หรือเป็นคนสร้างข้อมูลนั้นขึ้นมา

การประมวลผลข้อมูล (Processing) หมายถึง การดำเนินการหรือชุดการดำเนินการใดๆ ซึ่งกระทำต่อข้อมูลส่วนบุคคลหรือชุดข้อมูลส่วนบุคคล ไม่ว่าจะโดยวิธีการอัตโนมัติหรือไม่ เช่น การเก็บ บันทึก จัดระบบ จัดโครงสร้าง เก็บรักษา เปลี่ยนแปลงหรือปรับเปลี่ยน การรับ พิจารณา ใช้ เปิดเผยด้วยการส่งต่อ เผยแพร่ หรือการกระทำอื่นใดซึ่งทำให้เกิดความพร้อมใช้งาน การจัดวางหรือผสมเข้าด้วยกัน การจำกัด การลบ หรือการทำลาย (GDPR Article 4(2))

ความยินยอม (Consent) หมายถึง ข้อบ่งชี้ใดๆ ที่ได้รับอย่างเฉพาะเจาะจง ชัดแจ้ง ไม่เป็นที่น่าสงสัย ตามความปรารถนาของเจ้าของข้อมูล โดยคำสั่ง หรือการกระทำที่ชัดเจน หรือการยืนยันความตกลงในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล

เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer or “DPO”) หมายถึง บุคคลที่มีความเป็นอิสระ มีความเชี่ยวชาญด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและมีหน้าที่รายงานต่อผู้บริหารระดับสูง เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลช่วยให้คำแนะนำแก่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลในการตรวจสอบการปฏิบัติตามกฎหมายภายในเฮเฟเล่ แจ้งและให้คำแนะนำเกี่ยวกับภาระหน้าที่ในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการประเมินผลกระทบการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (DPIAs) และทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางการติดต่อสำหรับเจ้าของข้อมูลและหน่วยงานกำกับดูแล

  1. การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

เฮเฟเล่อาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ซึ่งรวมถึง

รายละเอียดส่วนบุคคลที่ระบุตัวตนของท่าน เช่น คำนำหน้าชื่อ ชื่อ นามสกุล ชื่อเล่น เพศ อายุ วันเกิด อาชีพ ตำแหน่งงาน รายละเอียด และ/หรือ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาหนังสือเดินทาง สำเนาทะเบียนบ้าน และสำเนาบัตรที่ออกโดยหน่วยงานราชการ หมู่เลือด รูปถ่าย ลายมือชื่อ และข้อมูลอื่นใดที่ท่านเลือกที่จะแบ่งปันให้แก่เฮเฟเล่ซึ่งอาจถือว่าเป็นข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลเพื่อการติดต่อ เช่น หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขโทรศัพท์มือถือ หมายเลขโทรสาร ที่อยู่ รหัสไปรษณีย์ อีเมล อีเมลของบริษัท หมายเลขโทรศัพท์ทางธุรกิจ และที่อยู่ทางธุรกิจ (ซึ่งรวมถึงเมือง รหัสไปรษณีย์ และประเทศ) ข้อมูลการเงิน เช่น เงินเดือน ช่วงเงินเดือน สลิปเงินเดือน หนังสือรับรองเงินเดือน สถาบันการเงินที่ท่านเลือกใช้ และรายละเอียดภายใต้เอกสารคำขอสินเชื่อ ข้อมูลเกี่ยวกับยานพาหนะ เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับรถยนต์ อาทิ เลขทะเบียนรถ และรุ่นรถยนต์ ข้อมูลเกี่ยวกับการบริการ เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้บริการ วันที่ใช้บริการ ประวัติการติดต่อ (ระหว่างท่านกับเฮเฟเล่) ความพึงพอใจของลูกค้าต่อบริการที่ใช้ของเฮเฟเล่ และข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการเรียกร้อง ข้อมูลอื่นๆ เช่น ความคิดเห็น คำถาม การสอบถาม ข้อร้องเรียน คำตอบสำหรับแบบสอบถาม ความชื่นชอบ ความสนใจ หรืองานอดิเรก และ ข้อมูลอ่อนไหว เช่น ศาสนาในบัตรประจำตัวประชาชน เชื้อชาติในเอกสารการยืนยันตัวตน และ ข้อมูลชีวภาพ (เช่น ข้อมูลจำลองลายนิ้วมือ ข้อมูลภาพจำลองใบหน้า และข้อมูลจำลองม่านตา)

ข้อมูลที่เฮเฟเล่เก็บรวบรวมเกี่ยวกับท่านสำหรับการให้บริการ การจัดหาผลิตภัณฑ์ เฮเฟเล่อาจเก็บรวบรวมข้อมูลต่อไปนี้จากการที่ท่านใช้เว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันของเฮเฟเล่ผ่านช่องทางการสื่อสารของเฮเฟเล่ หรือจากแหล่งข้อมูลอื่นๆ โดยอัตโนมัติ ซึ่งอาจรวมถึง ข้อมูลที่ระบุตัวตน เช่น ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว รูปภาพ และ/หรือ เสียง ความสนใจ เช่น ผลิตภัณฑ์ที่ท่านเลือก โครงการที่กำลังจะเกิดขึ้น และเหตุผลในการเลือกผู้จำหน่ายรายใดรายหนึ่ง ข้อมูลด้านพฤติกรรม เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้แอปพลิเคชันของท่าน (ซึ่งรวมถึง วันและเวลาที่ใช้ เวลาที่ตอบสนองต่อเพจ ความผิดพลาดในการดาวน์โหลด และข้อมูลเกี่ยวกับโฆษณาที่ท่านดูและข้อมูลอื่นๆ ที่เฮเฟเล่เก็บรวบรวม) หรือข้อมูลการใช้สิทธิเรียกร้องที่เกี่ยวกับช่องทางการสื่อสาร ผลิตภัณฑ์ และบริการ ข้อมูลทางเทคนิค เช่น หมายเลขที่ใช้สำหรับระบุตัวตนของเครื่องคอมพิวเตอร์ (ที่อยู่ไอพี) ที่ใช้ในการเชื่อมต่ออุปกรณ์เคลื่อนที่ของท่านกับอินเตอร์เน็ต ข้อมูลการเข้าสู่ระบบ ข้อมูลการปฏิบัติการ ประเภทและเวอร์ชั่นของแพลตฟอร์มปฏิบัติการ การตั้งค่าเขตเวลา คุกกี้ ซึ่งรวมถึง ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้อินเทอร์เน็ตของผู้ใช้คอมพิวเตอร์ขององค์กร (เช่น ผู้ใช้แต่ละรายเข้าเว็บไซต์อะไรบ้าง ดาวน์โหลดเอกสารอะไรบ้าง เหตุการณ์ด้านความปลอดภัย มาตรการป้องกันโดยเกตเวย์ ฯลฯ) ข้อมูลกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการเผยแพร่เนื้อหา การสร้างเป้าหมายหรือการใช้เอกสารที่ได้รับการคุ้มครองบนเว็บไซต์ เช่น การเปลี่ยนการอนุญาตและข้อมูลของเอกสารเกี่ยวกับบุคคลที่กระทำกิจกรรมดังกล่าว และคุกกี้ เมื่อท่านเข้าเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน จะมีการใช้คุกกี้เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลทางเทคนิคเกี่ยวกับบริการที่ท่านใช้ และวิธีการที่ท่านใช้บริการดังกล่าว

เฮเฟเล่อาจรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับสมาชิกในครอบครัวของท่านหรือบุคคลอื่น เช่น ผู้ติดต่อกรณีฉุกเฉิน บุคคลอ้างอิง ตัวแทน/ผู้แทน ผู้รับผลประโยชน์ ซึ่งรวมถึง ชื่อ และหมายเลขโทรศัพท์/โทรศัพท์มือถือของบุคคลดังกล่าว และข้อมูลอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับบุคคลใดที่ท่านได้ให้ไว้แก่เฮเฟเล่ในทุกรูปแบบ ในการให้ข้อมูลของบุคคลที่สามแก่เฮเฟเล่ ท่านรับรองและรับประกันว่าท่านมีอำนาจในการกระทำการดังกล่าว และอนุญาตให้เฮเฟเล่ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวตามนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ นอกจากนี้ ท่านยังมีหน้าที่ในการแจ้งให้บุคคลเหล่านั้นทราบถึงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้และ/หรือขอความยินยอมจากบุคคลเหล่านั้น หากจำเป็น

อย่างไรก็ตาม เฮเฟเล่จะทำการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลโดยมี วัตถุประสงค์ ขอบเขต และใช้วิธีการที่ชอบด้วยกฎหมายและเป็นธรรม โดยในการเก็บรวบรวมนั้นจะทำเพียงเท่าที่จำเป็นแก่การดำเนินงานภายใต้วัตถุประสงค์ของเฮเฟเล่เท่านั้น ทั้งนี้ เฮเฟเล่จะดำเนินการให้เจ้าของข้อมูลรับรู้ให้ความยินยอมทางอิเล็กทรอนิกส์หรือตามแบบวิธีการของเฮเฟเล่ กรณีที่เฮเฟเล่จัดเก็บข้อมูลอ่อนไหวของเจ้าของข้อมูล เฮฟแล่จะขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลโดยชัดแจ้งก่อนทำการเก็บรวบรวม เว้นแต่การเก็บข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลอ่อนไหวจะเข้าข้อยกเว้นตามที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 หรือกฎหมายอื่นกำหนดไว้

  1. แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล

เฮเฟเล่อาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจาก 2 ช่องทาง ดังนี้

  1. ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากท่านโดยตรง โดยอาจเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ไว้แก่เฮเฟเล่โดยตรง หรือให้ผ่านเฮเฟเล่ หรือมีอยู่กับเฮเฟเล่ทั้งที่เกิดจากการใช้ผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการ ติดต่อ เยี่ยมชม ค้นหา ผ่านช่องทางดิจิทัล สาขา เว็บไซต์ Call Centre ผู้ที่ได้รับมอบหมาย หรือช่องทางอื่นใด
  2. ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมาจากแหล่งอื่นซึ่งไม่ใช่จากท่านโดยตรง เช่น หน่วยงานของรัฐ สถาบันการเงิน พันธมิตรทางธุรกิจ บริษัทข้อมูลเครดิต และผู้ให้บริการข้อมูล เป็นต้น ซึ่งเฮเฟเล่จะเก็บรวบรวมข้อมูลจากแหล่งอื่นต่อเมื่อได้รับความยินยอมจากท่านตามที่กฎหมายกำหนด เว้นแต่เฮเฟเล่มีความจำเป็นตามกรณีที่กฎหมายอนุญาต
  3. วัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูล

เฮเฟเล่จะทำการเก็บรวบรวม หรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อประโยชน์ในการดำเนินงานของเฮเฟเล่ เช่น การทำสัญญา การทำธุรกรรมทางการเงิน การดำเนินกิจกรรมบริษัท การติดต่อประสานงานต่างๆ หรือเพื่อปรับปรุงคุณภาพการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เช่น การจัดทำฐานข้อมูล วิเคราะห์และพัฒนากระบวนการดำเนินงานของบริษัท และเพื่อวัตถุประสงค์อื่นใดที่ไม่ต้องห้ามตามกฎหมาย และ/หรือเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายหรือกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อการดำเนินงานของบริษัท โดยเฮเฟเล่จะจัดเก็บและใช้ข้อมูลดังกล่าวตามระยะเวลาเท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งท่านหรือตามที่กฎหมายกำหนดไว้เท่านั้น

ทั้งนี้ วัตถุประสงค์อื่นๆ ที่ไม่ได้ระบุไว้ข้างต้น ท่านจะได้รับการแจ้งเมื่อเฮเฟเล่มีการขอเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล อนึ่ง ในการได้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมานั้น เฮเฟเล่จะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้วัตถุประสงค์ที่กล่าวมาเฉพาะเมื่อเข้าเงื่อนไขดังต่อไปนี้:

  1. ท่านได้ให้ความยินยอมไว้กับเฮเฟเล่ตามกฎหมาย
  2. เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งท่านเป็นคู่สัญญา หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญานั้น
  3. เป็นการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือ สุขภาพของบุคคล
  4. เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของเฮเฟเล่ หรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจที่รัฐได้มอบหมายให้แก่เฮเฟเล่
  5. เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของเฮเฟเล่หรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น เว้นแต่ประโยชน์ดังกล่าวมีความสำคัญน้อยกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานในข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
  6. เป็นความจำเป็นเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย
  7. มีการจัดทำเอกสารประวัติศาสตร์หรือจดหมายเหตุเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือที่เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยหรือสถิติ โดยเฮเฟเล่จะจัดให้มีมาตรการปกป้องที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของท่าน

เฮเฟเล่จะไม่กระทำการใด ๆ แตกต่างจากที่ระบุในวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวมข้อมูล เว้นแต่

  1. ได้แจ้งวัตถุประสงค์ใหม่ให้ท่านทราบ และได้รับความยินยอมจากท่านเจ้าของข้อมูล
  2. เป็นการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติข้อมูลส่วนบุคคล หรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง
  3. การเปิดเผยและถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคล

การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

เฮเฟเล่อาจแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายในเครือข่ายของเฮเฟเล่ เพื่อวัตถุประสงค์ที่ได้อธิบายข้างต้น เฮเฟเล่จะดำเนินการตามขั้นตอนดังกล่าวเพื่อให้แน่ใจว่าการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลจำกัดเฉพาะพนักงานและตัวแทนของเฮเฟเล่เท่านั้นโดยอาศัยพื้นฐานของความจำเป็นต้องรู้ข้อมูล (need-to-know basis)

นอกจากนี้เฮเฟเล่อาจแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านออกนอกเครือข่ายของเฮเฟเล่ให้แก่บุคคลต่อไปนี้ เพื่อวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในนโยบายนี้

(ก) ภายในกลุ่ม: บริษัทแม่ บริษัทย่อย และบริษัทในเครือ เฮเฟเล่อาจจำเป็นต้องโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรืออนุญาตให้มีการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลนั้นแก่บริษัทอื่นภายในกลุ่มเพื่อวัตถุประสงค์ที่ระบุในนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ ซึ่งจะทำให้บริษัทอื่นๆ ภายในกลุ่มสามารถอาศัยความยินยอมที่เฮเฟเล่ได้รับมาจากท่าน

(ข) พันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อประกอบธุรกิจและบริการที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของเฮเฟเล่ ไม่ว่าจะเป็นกรณีที่ เฮเฟเล่ อาจเปิดเผยแก่และได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากพันธมิตรทางธุรกิจ ซึ่งรวมถึง พันธมิตรของเฮเฟเล่ที่ขายผลิตภัณฑ์หรือบริการของเฮเฟเล่ให้แก่ท่าน หรือผู้ที่เสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการร่วมกับเฮเฟเล่ หรืออาจมีการเสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการของพันธมิตรเหล่านี้ให้แก่ท่าน

(ค) ผู้จำหน่ายและตัวแทนขายที่ได้รับการแต่งตั้ง ในบางครั้งเฮเฟเล่อาจเปิดเผยและได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากผู้จำหน่ายที่ได้รับการแต่งตั้งที่ท่านเลือกหรืออยู่ใกล้กับท่านเพื่อให้บริการแก่ท่าน

(ง) ผู้ให้บริการ / ผู้จัดหาผลิตภัณฑ์/บริการ / ผู้รับจ้างช่วง เฮเฟเล่อาจใช้บริการของบริษัท ตัวแทน หรือผู้รับจ้างอื่นในการให้บริการแทนเฮเฟเล่หรือเพื่อช่วยเหลือในการจัดหาผลิตภัณฑ์และบริการให้แก่ท่าน เฮเฟเล่อาจแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านกับผู้ให้บริการหรือผู้จัดหาผลิตภัณฑ์/บริการจากภายนอกของเฮเฟเล่ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะ (1) ผู้ให้บริการระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและบริษัทเทคโนโลยีสารสนเทศ (2) ผู้ให้บริการวิเคราะห์หรือทำวิจัย เช่น กูเกิล (3) บริษัทที่ให้บริการวิเคราะห์เชิงสถิติ (4) บริษัทที่ให้บริการสำรวจ (5) บริษัทที่ให้บริการการตลาด สื่อโฆษณา การออกแบบ การสร้างสรรค์ และการสื่อสาร (6) ผู้จัดแคมเปญ งานกิจกรรม และการตลาด (7) ผู้ให้บริการด้านการบริหาร และ (8) ผู้ให้บริการจัดเก็บข้อมูลและบริการคลาวด์

(จ) ที่ปรึกษาจากภายนอก ซึ่งรวมถึง ทนายความ ช่างเทคนิค และผู้ตรวจสอบบัญชีซึ่งช่วยเหลือในการดำเนินธุรกิจของเฮเฟเล่หรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย

(ฉ) บุคคลที่สามตามที่กฎหมายกำหนด ในบางกรณี เฮเฟเล่อาจต้องเปิดเผยหรือแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายหรือกฎระเบียบ ซึ่งรวมถึงหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย (เช่น กรมการขนส่งทางบก กรมสรรพากร สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค) ศาล ผู้บังคับใช้กฎหมาย หน่วยงานรัฐบาล หรือบุคคลที่สามอื่นๆ หากเฮเฟเล่เชื่อว่ามีความจำเป็นต้องปฏิบัติตามภาระผูกพันตามกฎหมายหรือกฎระเบียบ หรือต้องปกป้องสิทธิของเฮเฟเล่ สิทธิของบุคคลที่สาม หรือความปลอดภัยของบุคคล หรือเพื่อตรวจจับ ป้องกัน หรือแก้ไขปัญหาการทุจริต ความมั่นคง หรือความปลอดภัย

(ช) โรงพยาบาลและหน่วยกู้ภัย อาจมีการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีฉุกเฉินเพื่อปกป้องประโยชน์ของท่าน

(ซ) ผู้รับโอนสิทธิและ/หรือภาระหน้าที่ ในกรณีที่มีการฟื้นฟูกิจการ การควบรวมกิจการ การโอนธุรกิจ ไม่ว่าส่วนหนึ่งหรือทั้งหมด การขาย การซื้อ การร่วมลงทุน การมอบ การโอน หรือการจำหน่ายส่วนหนึ่งหรือทั้งหมดของธุรกิจของเฮเฟเล่ ทรัพย์สินหรือหุ้น หรือธุรกรรมที่คล้ายกัน ทั้งนี้ บุคคลที่สามในฐานะผู้รับโอนสิทธิของเฮเฟเล่จะปฏิบัติตามนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้เพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

(ฌ) แหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เปิดเผยต่อสาธารณะ เช่น เว็บไซต์ โฆษณา และ/หรือแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย

การโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศ

  1. เฮเฟเล่ประกอบธุรกิจทั่วโลกและอาจโอนข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมจากท่านไปยังบริษัทที่เกี่ยวข้องหรือ บริษัทในเครือในต่างประเทศเพื่อให้บริการตามวัตถุประสงค์ที่ระบุข้างต้น เฮเฟเล่อาจจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลภายนอกที่อยู่ต่างประเทศตามวัตถุประสงค์ที่ระบุในนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ ประเทศที่เฮเฟเล่อาจโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านรวมถึงและไม่จำกัดเฉพาะแค่ประเทศเยอรมัน โดยการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลหรือการโอนข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวอาจทำได้เมื่อได้รับความยินยอมของท่าน เว้นเสียแต่ว่า เฮเฟเล่ได้กำหนดนโยบายในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลต่างหาก เพื่อการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลหรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งอยู่ต่างประเทศและอยู่ในบริษัทในเครือ เพื่อการประกอบกิจการหรือธุรกิจร่วมกัน หากนโยบายในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวได้รับการตรวจสอบและรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือ จะอาศัยฐานทางกฎหมายอื่นได้ (เช่น เพื่อปฏิบัติตามข้อกำหนดแห่งสัญญาระหว่างท่านและเฮเฟล่และบุคคลอื่นเพื่อประโยชน์ของท่าน) ตามที่กฎหมายที่ใช้บังคับอนุญาต ให้สามารถกระทำได้โดยได้รับยกเว้นไม่ต้องได้รับความยินยอมจากท่าน
  2. โปรดทราบว่าประเทศดังกล่าว จากมุมมองของหน่วยงานกำกับดูแลด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศไทย อาจไม่มี 'มาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เทียบเท่า' ตามที่หน่วยงานกำกับดูแลด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศไทยกำหนด แม้ว่าการเก็บรวบรวม การเก็บรักษา การเปิดเผย และการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยเฮเฟเล่จะยังคงอยู่ภายใต้ข้อบังคับของนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ ดังนั้น หากข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกโอนไปยังประเทศปลายทางที่มาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลไม่เพียงพอเท่ากับมาตรฐานภายใต้กฎหมายที่ใช้บังคับ เฮเฟเล่จะดำเนินการที่จำเป็นเพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่โอนให้กับบุคคลอื่นในต่างประเทศเพื่อให้ได้รับการคุ้มครองในระดับเดียวกับที่เฮเฟเล่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และให้เป็นไปตามกฎหมายที่ใช้บังคับในขณะนั้น
  3. การเก็บรักษาและระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

เฮเฟเล่จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในระยะเวลาเท่าที่จำเป็นอย่างสมเหตุสมผลเพื่อให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ที่ระบุในนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ หากมีการดำเนินการทางกฎหมายหรือทางวินัย อาจต้องเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้จนกว่าการดำเนินการนั้นจะสิ้นสุด ซึ่งรวมถึงระยะเวลาที่เป็นไปได้ในการยื่นอุทธรณ์ด้วย หลังจากนั้นข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะถูกลบหรือเก็บถาวรตามที่กฎหมายที่ใช้บังคับอนุญาต

  1. สิทธิของเจ้าของข้อมูล

                ท่านมีสิทธิในการดำเนินการ ดังต่อไปนี้

(1) สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม: ท่านมีสิทธิในการเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมกับเฮเฟเล่ได้ ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่กับเฮเฟเล่

(2) สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล: ท่านมีสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและขอให้เฮเฟเล่ทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวให้แก่ท่าน รวมถึงขอให้เฮเฟเล่เปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอมต่อเฮเฟเล่ได้

(3) สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง: ท่านมีสิทธิในการขอให้เฮเฟเล่แก้ไขข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง หรือ เพิ่มเติมข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์

(4) สิทธิในการลบข้อมูลส่วนบุคคล: ท่านมีสิทธิในการขอให้เฮเฟเล่ทำการลบข้อมูลของท่านด้วยเหตุบางประการได้

(5) สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล: ท่านมีสิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยเหตุบางประการได้

(6) สิทธิในการให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล: ท่านมีสิทธิในการโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ท่านให้ไว้กับเฮเฟเล่ไปยังผู้ควบคุมข้อมูลรายอื่น หรือ ตัวท่านเองด้วยเหตุบางประการได้

(7) สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล: ท่านมีสิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยเหตุบางประการได้

ท่านสามารถติดต่อมายังเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล/เจ้าหน้าที่ฝ่ายของเฮเฟเล่ได้ เพื่อดำเนินการยื่นคำร้องขอดำเนินการตามสิทธิข้างต้นได้ (รายละเอียดการติดต่อปรากฏในหัวข้อ “ช่องทางการติดต่อ” ด้านล่างนี้)

ทั้งนี้ ท่านไม่จำเป็นต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ในการดำเนินตามสิทธิข้างต้น โดยเฮเฟเล่จะพิจารณาและแจ้งผลการพิจารณาตามคำร้องของท่านภายใน 30 วันนับแต่วันที่เฮเฟเล่ได้รับคำร้องขอดังกล่าว

  1. กิจกรรมทางการตลาดและการส่งเสริมการตลาด

ในระหว่างการใช้บริการ เฮเฟเล่จะส่งข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับกิจกรรมทางการตลาด และการส่งเสริมการตลาด ผลิตภัณฑ์ การให้บริการของเฮเฟเล่ที่เฮเฟเล่คิดว่าท่านอาจสนใจเพื่อประโยชน์ในการให้บริการกับท่านอย่างเต็มประสิทธิภาพ หากท่านได้ตกลงที่จะรับข้อมูลข่าวสารดังกล่าวจากเฮเฟเล่แล้ว ท่านมีสิทธิยกเลิกความยินยอมดังกล่าวได้ทุกเมื่อ โดยท่านสามารดำเนินการยกเลิกความยินยอมในการรับแจ้งข้อมูลข่าวสารได้ที่ โทรศัพท์: (02) 768-7171 หรือโทรสาร: (02) 741-7272

  1. คุกกี้

คุกกี้ คือ text files ที่อยู่ในคอมพิวเตอร์ของท่านที่ใช้เพื่อจัดเก็บรายละเอียดข้อมูล log การใช้งานอินเทอร์เน็ตของท่านหรือพฤติกรรมการเยี่ยมชมเว็บไซต์ของท่าน เฮเฟเล่จะจัดเก็บข้อมูลการเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์จากผู้เข้าเยี่ยมชมทุกรายผ่านคุกกี้หรือเทคโนโลยีที่ใกล้เคียง ประเภทของคุ้กกี้ที่เฮเฟเล่เลือกนำมาใช้มี ดังต่อไปนี้

  1. คุกกี้พื้นฐานที่จำเป็น เพื่อช่วยให้การทำงานหลักของเว็บไซต์ใช้งานได้ รวมถึงการเข้าถึงพื้นที่ที่ปลอดภัยต่าง ๆ ของเว็บไซต์ หากไม่มีคุกกี้นี้เว็บไซต์จะไม่สามารถทำงานได้อย่างเหมาะสม และจะใช้งานได้โดยการตั้งค่าเริ่มต้น โดยไม่สามารถปิดการใช้งานได้
  2. คุกกี้ในส่วนวิเคราะห์ จะช่วยให้เว็บไซต์เข้าใจรูปแบบการใช้งานของผู้เข้าเข้าชมและจะช่วยปรับปรุงประสบการณ์การใช้งาน โดยการเก็บรวบรวมข้อมูลและรายงานผลการใช้งานของผู้ใช้งาน
  3. คุกกี้ในส่วนการตลาด ใช้เพื่อติดตามพฤติกรรมผู้เข้าชมเว็บไซต์เพื่อแสดงโฆษณาที่เหมาะสมสำหรับผู้ใช้งานแต่ละรายและเพื่อเพิ่มประสิทธิผลการโฆษณาสำหรับผู้เผยแพร่และผู้โฆษณาสำหรับบุคคลที่สาม

คุกกี้ที่มีความจำเป็นอย่างยิ่ง

(Strictly Necessary Cookies)

PHPSESSID

www.hafelethailand.com

Necessary

_showcancelpdpa

www.hafelethailand.com

Other

คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์/เพื่อประสิทธิภาพ (Analytical/Performance Cookies)

_ga, _gat, _gid, _gcl_au, _gat_UA-

.hafelethailand.com

Analytics

CONSENT

.youtube.com

Analytics

คุกกี้เพื่อการโฆษณา

(Advertising Cookies)

YSC, VISITOR_INFO1_LIVE, yt-remote-device-id, yt-remote-connected-devices,

.youtube.com

Advertisement

test_cookie

.doubleclick.net

Advertisement

personalization_id

.twitter.com

Advertisement

_fbp , _acepata, _aceprev, __lt__sid, __lt__cid, __lt__cid, _tt_enable_cookie, _ttp, __sdwc

www.hafelethailand.com

Advertisement

_ttp

.tiktok.com

Advertisement

_ldbrbid

.line.me

Advertisement

muc_ads

.t.co

Advertisement

 

สำหรับข้อมูลส่วนบุคคลที่เฮเฟเล่เก็บรวบรวมจากการใช้คุกกี้ เฮเฟเล่จะประมวลผลข้อมูลเหล่านี้ตามนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้

ท่านสามารถปิดการตั้งค่าคุกกี้ได้โดยการเข้าไปที่การตั้งค่าของเบราว์เซอร์ของท่านและปรับการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวเพื่อจำกัดการเก็บคุกกี้ในอนาคต หรือศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับคุกกี้ได้ที่นโยบายเกี่ยวกับคุกกี้

  1. การเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

เฮเฟเล่จะทำการพิจารณาทบทวนนโยบายความเป็นส่วนตัวเป็นประจำเพื่อให้สอดคล้องกับแนวปฏิบัติ และ กฎหมาย ข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ หากมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัว เฮเฟเล่จะแจ้งให้ท่านทราบด้วยการอัพเดทข้อมูลลงในเว็บไซต์ของเฮเฟเล่โดยเร็วที่สุด 

  1. ช่องทางการติดต่อ

รายละเอียดผู้ควบคุมข้อมูล

บริษัท เฮเฟเล่ (ประเทศไทย) จำกัด (Hafele (Thailand) Limited)

สถานที่ติดต่อ: สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่เลขที่ 57 ซอยสุขุมวิท 64 ถนนสุขุมวิท แขวงพระโขนงใต้ เขตพระโขนง กรุงเทพมหานคร 10260

โทรศัพท์: (02) 768-7171 หรือโทรสาร: (02) 741-7272

อีเมล: info@hafele.co.th

เว็บไซต์: https://www.hafelethailand.com/ และ https://www.hafelehome.co.th/

  1. การละเมิด

การละเมิดหรือฝ่าฝืนนโยบายนี้ อาจส่งผลให้มีการลงโทษทางวินัยรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการเลิกจ้างหรือเลิกสัญญาและการลงโทษทางอาญาและ/หรือทางแพ่งตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

อ่านรายละเอียดนโยบายเพิ่มเติม 

- นโยบายการใช้คุกกี้บริษัทเฮเฟเล่ (ประเทศไทย) จำกัด